น้ำตาไหลในผู้ใหญ่ (Adult Tearing)

ทำไมน้ำตาจึงไหลมากผิดปกติ?

อาการน้ำตาไหลในผู้ใหญ่เป็นปัญหาที่พบบ่อย เกิดขึ้นเมื่อ สมดุลระหว่างการสร้างน้ำตาและการระบายน้ำตาเสียไป แม้จะทำให้รู้สึกรำคาญหรือรบกวนชีวิตประจำวัน แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา

กลไกการทำงานของน้ำตา

  • น้ำตาหล่อเลี้ยงตา (Moisturizing tears)
    สร้างอย่างต่อเนื่องจากต่อมเล็ก ๆ บนเปลือกตา กระจายเคลือบผิวตาทุกครั้งที่เรากะพริบ และถูกระบายออกทางรูเล็ก ๆ มุมหัวตาเข้าสู่จมูก
  • น้ำตาตอบสนอง (Reflex tears)
    เกิดขึ้นเมื่อมีการระคายเคือง เช่น ลม ฝุ่น ควัน หรือจากอารมณ์ เช่น ร้องไห้

ที่น่าสนใจคือ ตาแห้ง” เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการน้ำตาไหล เพราะเมื่อผิวตาแห้ง ต่อมน้ำตาจะสร้างน้ำตาเพิ่มขึ้นมากเกินไป จนน้ำตาเอ่อออกมาไหลลงแก้ม

สาเหตุที่พบบ่อย

  • ตาแห้ง จากอายุที่มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ภาวะเปลือกตาอักเสบ (blepharitis) หรือการกะพริบตาลดลงจากการใช้คอมพิวเตอร์/มือถือ
  • ท่อน้ำตาอุดตัน ทำให้น้ำตาไม่สามารถระบายออกได้ เกิดการเอ่อล้นอยู่ตลอด
  • ปัญหาเปลือกตา เช่น หนังตาหย่อนหรืออ่อนแรง ทำให้น้ำตาไม่ไหลเข้าสู่ท่อน้ำตาตามปกติ
  • สิ่งแวดล้อม เช่น ลมแรง อากาศแห้ง ฝุ่น ควัน หรือภูมิแพ้
  • สาเหตุอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อ โรคเปลือกตากลับผิดรูป (เช่น entropion/ectropion) หรือเนื้องอกในทางเดินน้ำตา (พบได้น้อย)

วิธีการรักษา

หากเกิดจากตาแห้ง

  • ใช้น้ำตาเทียม หรือยาหยอดตาเคลือบผิวตา
  • ประคบอุ่นและทำความสะอาดเปลือกตา
  • ใช้ยาหยอดตาที่แพทย์สั่ง
  • ลดเวลาอยู่หน้าจอ หรือเพิ่มความชื้นในห้อง

หากเกิดจากท่อน้ำตาอุดตัน

  • หัตถการเล็ก ๆ เพื่อเปิดท่อน้ำตาที่แคบ
  • การผ่าตัด DCR (Dacryocystorhinostomy) เพื่อสร้างทางระบายน้ำตาใหม่ระหว่างถุงน้ำตาและโพรงจมูก
  • ในกรณีซับซ้อน อาจใช้ท่อแก้วเล็ก (Jones tube) เพื่อระบายน้ำตา

หากเกิดจากเปลือกตาหย่อนหรืออ่อนแรง

  • การผ่าตัดกระชับเปลือกตา เพื่อช่วยให้น้ำตาไหลเข้าสู่ท่อน้ำตาได้ดีขึ้น

กรณีหาสาเหตุชัดเจนไม่ได้

บางรายอาจต้องใช้การรักษาหลายวิธีร่วมกัน หากยังไม่ดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาหัตถการพิเศษ เช่น การฉีดโบทูลินัมท็อกซิน หรือการลดขนาดต่อมน้ำตาบางส่วน

สรุป

  • อาการน้ำตาไหลมักไม่อันตรายต่อดวงตา แต่รบกวนการใช้ชีวิตได้
  • สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ ตาแห้ง และ ท่อน้ำตาอุดตัน
  • ส่วนใหญ่ดีขึ้นด้วยการรักษาง่าย ๆ แต่บางรายอาจต้องผ่าตัด
  • จักษุแพทย์เฉพาะทางสาขาศัลยกรรมจักษุตกแต่งและเสริมสร้าง จะช่วยวินิจฉัยหาสาเหตุและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
Share the Post:

ASOPRS Oculofacial Plastic Surgeon
Assistant Professor and Chief of Oculoplastic Service
Faculty of Medicine Siriraj Hospital Mahidol University

Contact

ภาควิชาจักษุวิทยา ตึกสยามินทร์ชั้น 14
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
2 ถ.วังหลัง แขวงศิริราช
เขตบางกอกน้อยกรุงเทพมหานคร 10700
Thailand

อีเมล: [email protected]
สอบถาม โทร: (02) 419-8033

Send a Message

Contact Form

Related Posts

ผศ.พญ.พิมพ์ขวัญ จารุอำพรพรรณ, Pimkwan Jaru-ampornpan MD

ผิวหนังเปลือกตาบนส่วนเกินและการผ่าตัดหนังตา (การผ่าตัดยกเปลือกตาบน)

ทำไมผิวหนังเปลือกตาบนจึงเปลี่ยนแปลง? เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบริเวณเปลือกตาบนจะค่อย ๆ หย่อนและยืดออกไขมันรอบดวงตาอาจเคลื่อนมาด้านหน้าทำให้เปลือกตาดูหนาหรือย่น

อ่านเพิ่มเติม
ผศ.พญ.พิมพ์ขวัญ จารุอำพรพรรณ, Pimkwan Jaru-ampornpan MD

เปลือกตาม้วนเข้า (Entropion)

ภาวะ เปลือกตาม้วนเข้า (Entropion) คือการที่ขอบเปลือกตาม้วนเข้าด้านใน ทำให้ขนตาและผิวหนังเปลือกตาถูกับผิวกระจกตาและตาขาวตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้ระคายเคืองและหากปล่อยไว้อาจเป็นอันตรายต่อดวงตาได้

อ่านเพิ่มเติม
ผศ.พญ.พิมพ์ขวัญ จารุอำพรพรรณ, Pimkwan Jaru-ampornpan MD

กระดูกเบ้าตาแตก (Orbital Fractures)

กระดูกเบ้าตาคืออะไร? เบ้าตาคือโพรงกระดูกที่บรรจุลูกตา,กล้ามเนื้อ,เส้นประสาท,ไขมัน และหลอดเลือด เมื่อเกิดการกระแทกหรืออุบัติเหตุแรง ๆ กระดูกบางส่วนของเบ้าตาอาจแตกได้

อ่านเพิ่มเติม
ผศ.พญ.พิมพ์ขวัญ จารุอำพรพรรณ, Pimkwan Jaru-ampornpan MD

เปลือกตาตก (Blepharoptosis หรือ Eyelid Ptosis)

เปลือกตาตก หรือโทซิส (Ptosis) หมายถึงภาวะที่เปลือกตาบนตกลงมามากกว่าปกติ อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ บางรายตกเล็กน้อยเพียงทำให้ดูง่วงหรืออ่อนล้า

อ่านเพิ่มเติม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *