ทำไมต้องผ่าตัดเอาลูกตาออก?
การเอาลูกตาออกเป็นการรักษาที่สำคัญ แต่ในบางกรณีเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อบรรเทาอาการปวด รักษาสุขภาพ หรือปรับปรุงรูปลักษณ์ สาเหตุที่อาจต้องทำ ได้แก่
- ตาบอดและมีอาการปวด
 - การติดเชื้อรุนแรงหรืออุบัติเหตุรุนแรง
 - มะเร็งภายในหรือตามรอบดวงตา
 - ลูกตาฝ่อหรือผิดรูป
 
บางครั้งการเอาลูกตาออกสามารถช่วยชีวิตได้ (เช่น ในกรณีเนื้องอกร้าย) หรือช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตในสังคมและความมั่นใจมากขึ้น
วิธีการผ่าตัด
มี 2 วิธีหลัก:
- Enucleation – เอาลูกตาทั้งลูกออก เหลือไว้เฉพาะกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ใช้ในกรณีมีเนื้องอก การบาดเจ็บรุนแรง หรือการติดเชื้อร้ายแรง
 - Evisceration – เอาเฉพาะเนื้อเยื่อด้านในของตาออก เหลือเปลือกตาและกล้ามเนื้อไว้ เหมาะในกรณีที่ไม่มีเนื้องอกหรือการติดเชื้อ
 
จักษุแพทย์เฉพาะทางสาขาศัลยกรรมจักษุตกแต่งและเสริมสร้างจะเลือกวิธีที่ปลอดภัยที่สุดให้เหมาะกับคุณ
ระหว่างการผ่าตัด
- ทำภายใต้การดมยาสลบ ส่วนใหญ่เป็นการผ่าตัดผู้ป่วยนอก
 - ใส่ลูกอะคริลิกกลมๆ (implant) ไว้ในเบ้าตาเพื่อคงปริมาตรเบ้าตาและรองรับการเคลื่อนไหวของเบ้า
 - กล้ามเนื้อตาจะถูกเก็บไว้เพื่อให้ตาเทียมขยับได้ใกล้เคียงธรรมชาติ
 - ใส่ตาใสชั่วคราว (conformer) เพื่อช่วยในการหายของแผล
 
การพักฟื้น
- อาจมีอาการกดดัน บวม ฟกช้ำ หรือมีน้ำซึมในช่วงแรก
 - ใช้ยาหยอดหรือยาป้ายตาปฏิชีวนะตามคำสั่งแพทย์
 - ส่วนใหญ่กลับไปทำกิจวัตรได้ใน 1–2 สัปดาห์
 - จะมีการนัดกับผู้ประดิษฐ์ตาเทียม (ocularist) เพื่อพิมพ์ตาเทียมเฉพาะบุคคลหลังผ่าตัดไม่กี่สัปดาห์
 
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน
อาจพบได้ เช่น:
- เลือดออกหรือติดเชื้อ
 - การเคลื่อนหรือโผล่ของ implant ที่ฝังในเบ้าตา
 - การเคลื่อนไหวของตาเทียมไม่ดี
 - แผลเป็นภายในเบ้าตา
 - อาจต้องผ่าตัดซ้ำในบางกรณี
 
หลังการรักษาจะดูเป็นอย่างไร?
ตาเทียมที่ทำอย่างประณีตสามารถดูใกล้เคียงธรรมชาติและเคลื่อนไหวพร้อมกับตาอีกข้างได้ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะรู้สึกมั่นใจและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหลังฟื้นตัว
