กระดูกเบ้าตาแตก (Orbital Fractures)

กระดูกเบ้าตาคืออะไร?

เบ้าตา คือโพรงกระดูกที่บรรจุลูกตา กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ไขมัน และหลอดเลือด เมื่อเกิดการกระแทกหรืออุบัติเหตุแรง ๆ กระดูกบางส่วนของเบ้าตาอาจแตกได้ เราเรียกว่า กระดูกเบ้าตาแตก ตำแหน่งที่แตกบ่อย ได้แก่ ผนังบาง ๆ ระหว่างตากับโพรงจมูก หรือกระดูกใต้ตา

อาการ

ผู้ป่วยกระดูกเบ้าตาแตกอาจมีอาการดังนี้:

  • ปวดและบวมรอบตา
  • มีรอยช้ำ
  • เห็นภาพซ้อน
  • ชาบริเวณแก้ม หรือฟันบน
  • คลื่นไส้
  • เมื่อตาบวมยุบ อาจเห็นลูกตาดูลึกหรือ “บุ๋ม”

โดยทั่วไปแพทย์จะส่งตรวจ CT scan เพื่อดูตำแหน่งกระดูกแตกและตรวจว่ามีกล้ามเนื้อหรือไขมันถูกกักติดหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบลูกตาโดยตรงว่ามีการบาดเจ็บหรือไม่

การรักษา

ไม่ใช่กระดูกเบ้าตาแตกทุกกรณีที่ต้องผ่าตัด หากกระดูกแตกเล็กน้อยและไม่มีอาการรุนแรง มักหายเองได้ แพทย์อาจแนะนำให้:

  • ประคบเย็น
  • รับประทานยาปฏิชีวนะ
  • ยาลดการอักเสบ

ควรหลีกเลี่ยง:

  • การสั่งน้ำมูกแรง ๆ หรือจามแรง ๆ
  • การขึ้นเครื่องบินหรือดำน้ำ (ความดันอาจทำให้อาการแย่ลง)

เมื่อใดควรผ่าตัด?

แพทย์มักพิจารณาผ่าตัดภายใน 2 สัปดาห์ หากพบว่า:

  • มีภาพซ้อนรุนแรงหรือไม่หาย
  • เจ็บหรือคลื่นไส้มากเวลาขยับตา
  • ลูกตาดูลึกผิดปกติ

การผ่าตัดและการพักฟื้น

การผ่าตัดซ่อมกระดูกเบ้าตาทำภายใต้การดมยาสลบ ผู้ป่วยบางรายกลับบ้านได้ในวันเดียว บางรายอาจต้องนอนโรงพยาบาล 1 คืน

หลังผ่าตัด:

  • อาจมีอาการบวมช้ำหลายวัน
  • มองเห็นอาจพร่าชั่วคราว
  • แพทย์อาจให้ประคบเย็น รับยาปฏิชีวนะ หรือยาลดการอักเสบต่อเนื่อง
  • อาจมีภาพซ้อนหรืออาการชา แต่ส่วนใหญ่จะดีขึ้นเอง

ผู้ป่วยส่วนมากกลับไปทำงานหรือเรียนได้ภายในประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ควรงดออกแรงหนัก ขึ้นเครื่องบิน หรือดำน้ำ อย่างน้อยหลายสัปดาห์

การใช้กระดูกเบ้าตาเทียมเฉพาะราย (Patient-Specific Implant)

ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ กระดูกเบ้าตาเทียมที่ออกแบบขึ้นมาเฉพาะราย เพื่อซ่อมแซมกระดูกเบ้าตาที่แตก วัสดุนี้จะออกแบบขึ้นโดยอ้างอิงจากภาพถ่าย CT scan ของผู้ป่วย เพื่อให้มีรูปร่างพอดีกับเบ้าตาของแต่ละราย

ข้อดีของการใช้วัสดุฝังเฉพาะราย ได้แก่:

  • ซ่อมแซมกระดูกได้ตรงตำแหน่งและใกล้เคียงปกติที่สุด
  • เพิ่มความสมมาตรระหว่างตาทั้งสองข้าง
  • ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนระยะยาว เช่น เห็นภาพซ้อนหรือตาลึกบุ๋ม

วัสดุเหล่านี้มักผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยต่อร่างกาย เช่น ไทเทเนียม หรือ พลาสติกโพลีเอทิลีนชนิดพิเศษ และออกแบบมาเพื่อเข้ากับเนื้อเยื่อรอบดวงตาอย่างปลอดภัย

แพทย์จักษุเฉพาะทางสาขาศัลยกรรมจักษุตกแต่งและเสริมสร้าง จะเป็นผู้พิจารณาว่าควรใช้วัสดุฝังมาตรฐานหรือวัสดุฝังเฉพาะรายในผู้ป่วยแต่ละราย

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน

การผ่าตัดทุกชนิดมีความเสี่ยง เช่น:

  • เลือดออกหรือติดเชื้อ
  • ภาพซ้อนหรืออาการชาที่คงอยู่
  • ความสมมาตรของดวงตาไม่เท่ากัน
  • การมองเห็นลดลง (พบได้น้อยมาก)

สรุป

กระดูกเบ้าตาแตกเป็นภาวะที่พบได้หลังอุบัติเหตุบริเวณใบหน้า หลายกรณีหายเองโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่หากมีอาการรุนแรงอาจต้องผ่าตัดซ่อมแซม โดยทั่วไปผู้ป่วยมักฟื้นตัวได้ดีเมื่อได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจากจักษุแพทย์เฉพาะทางสาขาศัลยกรรมจักษุตกแต่งและเสริมสร้าง

Share the Post:

ASOPRS Oculofacial Plastic Surgeon
Assistant Professor and Chief of Oculoplastic Service
Faculty of Medicine Siriraj Hospital Mahidol University

Contact

ภาควิชาจักษุวิทยา ตึกสยามินทร์ชั้น 14
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
2 ถ.วังหลัง แขวงศิริราช
เขตบางกอกน้อยกรุงเทพมหานคร 10700
Thailand

อีเมล: [email protected]
สอบถาม โทร: (02) 419-8033

Send a Message

Contact Form

Related Posts

ผศ.พญ.พิมพ์ขวัญ จารุอำพรพรรณ, Pimkwan Jaru-ampornpan MD

การผ่าตัดเอาลูกตาออก (Enucleation & Evisceration)

ทำไมต้องผ่าตัดเอาลูกตาออก? การเอาลูกตาออกเป็นการรักษาที่สำคัญ แต่ในบางกรณีเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อบรรเทาอาการปวด รักษาสุขภาพ หรือปรับปรุงรูปลักษณ์

อ่านเพิ่มเติม
ผศ.พญ.พิมพ์ขวัญ จารุอำพรพรรณ, Pimkwan Jaru-ampornpan MD

น้ำตาไหลในเด็ก (ท่อน้ำตาตัน)

ทำไมน้ำตาลูกถึงไหลบ่อย? โดยปกติน้ำตาจะช่วยหล่อเลี้ยงและปกป้องดวงตาน้ำตาจะถูกระบายผ่านท่อน้ำตาที่อยู่บริเวณหัวตาเข้าสู่โพรงจมูก แต่ในเด็กบางรายท่อน้ำตายังไม่เปิดเต็มที่ตั้งแต่แรกเกิด ทำให้เกิดภาวะ “ท่อน้ำตาตัน”

อ่านเพิ่มเติม
ผศ.พญ.พิมพ์ขวัญ จารุอำพรพรรณ, Pimkwan Jaru-ampornpan MD

คำแนะนำ การดูแลหลังผ่าตัดเปลือกตา และศัลยกรรมรอบดวงตา

คำแนะนำ การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดเปลือกตา สิ่งที่พึงทราบเกี่ยวกับอาการหลังผ่าตัด อาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์ทันที

อ่านเพิ่มเติม
ผศ.พญ.พิมพ์ขวัญ จารุอำพรพรรณ, Pimkwan Jaru-ampornpan MD

ตากุ้งยิงและก้อนไขมันที่เปลือกตา (Styes และ Chalazia)

ตากุ้งยิงคืออะไร? ตากุ้งยิงคือก้อนแดงที่เจ็บบริเวณเปลือกตาคล้ายสิวเล็กๆ เกิดจากต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตันและอักเสบ ทำให้มีอาการบวมและระคายเคือง

อ่านเพิ่มเติม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *