ทำไมผิวหนังเปลือกตาบนจึงเปลี่ยนแปลง?
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบริเวณเปลือกตาบนจะค่อย ๆ หย่อนและยืดออก ไขมันรอบดวงตาอาจเคลื่อนมาด้านหน้า ทำให้เปลือกตาดูหนาหรือย่น ปัจจัยทางพันธุกรรมและการได้รับแสงแดดก็เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น
ในบางราย ผิวหนังที่เกินออกมานี้อาจตกลงมาบังการมองเห็นด้านข้าง (ลานสายตา) ทำให้การอ่านหนังสือ ขับรถ หรือดูโทรทัศน์ลำบากขึ้น
การผ่าตัดแก้ไขหนังตาบนหย่อน (Blepharoplasty) คืออะไร?
คือการผ่าตัดเอาผิวหนังส่วนเกิน และบางครั้งรวมถึงไขมัน ออกจากเปลือกตาบน สามารถทำได้เพื่อ:
- เหตุผลด้านการมองเห็น – เพื่อช่วยให้การมองชัดเจนและสบายขึ้น
- เหตุผลด้านความสวยงาม – เพื่อปรับรูปลักษณ์ให้สดใส อ่อนวัย
- ทั้งสองอย่างร่วมกัน
ถ้าผิวหนังตกลงมาบังการมองเห็น การผ่าตัดอาจถือเป็นการรักษาที่จำเป็นทางการแพทย์ และอาจครอบคลุมโดยประกันสุขภาพได้ (ทั้งนี้บริษัทประกันจะเป็นผู้พิจารณาตามบริบทของผู้ป่วยแต่ละรายจากผลการตรวจร่างกาย ทำลานสายตา และส่งรูปถ่าย) แต่ถ้าเป็นเหตุผลด้านความงามเพียงอย่างเดียว จะไม่ครอบคลุมโดยประกันสุขภาพ
การผ่าตัดทำอย่างไร?
แพทย์จะกรีดแผลเล็ก ๆ ซ่อนในรอยพับตามธรรมชาติของเปลือกตา ตัดผิวหนังส่วนเกิน (และไขมันบางส่วนถ้าจำเป็น) จากนั้นเย็บชั้นตาและเย็บปิดแผลด้วยไหม รอยแผลมักจะหายและมองเห็นได้น้อยมาก
เป้าหมายคือทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น โดยยังคงรูปร่างธรรมชาติของตาไว้
การพักฟื้นหลังผ่าตัด
- ประคบเย็นในช่วงแรกเพื่อลดบวมและช้ำ
- ใช้ยาปฏิชีวนะทาตามที่แพทย์สั่ง
- นอนหนุนหัวสูงและหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก
- มักมีอาการเจ็บเล็กน้อย ควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวดทั่วไป
ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ภายใน 1–2 สัปดาห์
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน
เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ อาจมีความเสี่ยง เช่น
- รอยช้ำและบวม (พบบ่อยและหายได้เอง)
- เลือดออกหรือติดเชื้อ (พบได้น้อย)
- ตาแห้งหรือระคายเคือง
- ก้อนเล็ก ๆ ตามแนวแผล (มักหายไปเอง)
- ความสูงหรือลักษณะเปลือกตาสองข้างไม่เท่ากัน
- อาจต้องผ่าตัดแก้ไขเพิ่มเติมในบางกรณี
สรุป
การผ่าตัดยกเปลือกตาบนช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น ลดความหนักของเปลือกตา และคืนความอ่อนเยาว์สดใสให้กับใบหน้า จักษุแพทย์เฉพาะทางสาขาศัลยกรรมจักษุตกแต่งและเสริมสร้างจะเป็นผู้ประเมินและแนะนำแนวทางที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณ