ทำไมน้ำตาลูกถึงไหลบ่อย?
โดยปกติ น้ำตาจะช่วยหล่อเลี้ยงและปกป้องดวงตา น้ำตาจะถูกระบายผ่านท่อน้ำตาที่อยู่บริเวณหัวตาเข้าสู่โพรงจมูก แต่ในเด็กบางราย ท่อน้ำตายังไม่เปิดเต็มที่ตั้งแต่แรกเกิด ทำให้เกิดภาวะ “ท่อน้ำตาตัน”
สาเหตุของท่อน้ำตาตันในเด็ก
ทารกประมาณ 7% จะมีท่อน้ำตาตันตั้งแต่เกิด ซึ่งมักเกิดจากเยื่อบาง ๆ ปิดที่ปลายท่อน้ำตา ทำให้น้ำตาไหลย้อนออกมาทางตาแทนที่จะไหลลงจมูก
อาการที่พบบ่อย ได้แก่:
- น้ำตาคลอหรือไหลตลอดเวลา
 - มีขี้ตา หรือมูกสีเหลือง/เขียว
 - ตาแดง ระคายเคือง
 - บวมบริเวณหัวตา
 
บางครั้งน้ำตาที่ค้างอยู่ในท่ออาจติดเชื้อได้ ถึงแม้ว่าท่อน้ำตาตันจะเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการน้ำตาไหลในเด็ก แต่ก็มีโรคตาอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการคล้ายกัน ดังนั้นควรพาเด็กพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจยืนยัน
การรักษา
- การดูแลเบื้องต้น (ในปีแรกของชีวิต):
- นวดกดเบา ๆ บริเวณหัวตาวันละหลายครั้ง
 - ใช้ยาปฏิชีวนะหากมีขี้ตาหรือการติดเชื้อ
 - เด็กส่วนใหญ่จะหายเองเมื่ออายุประมาณ 1 ขวบ
 
 - การสวนท่อน้ำตา (Probing):
- ใช้แท่งโลหะขนาดเล็กใส่ผ่านท่อน้ำตาเพื่อเปิดทาง
 - เป็นหัตถการสั้น ๆ ทำได้ในคลินิกหรือห้องผ่าตัด
 
 - การรักษาอื่น ๆ (ในรายที่เป็นมากหรือไม่หาย):
- ขยายท่อด้วยบอลลูน (Balloon dilation)
 - ใส่ท่อซิลิโคนชั่วคราวเพื่อช่วยเปิดทางเดินน้ำตา
 - ผ่าตัดสร้างทางน้ำตาใหม่ (พบได้น้อยมาก)
 
 
การพยากรณ์โรคและความเสี่ยง
ส่วนใหญ่การรักษาได้ผลดี ภาวะแทรกซ้อนพบได้น้อย เช่น บวมเล็กน้อย หรือการอุดตันซ้ำ
สรุป
ท่อน้ำตาตันเป็นปัญหาที่พบบ่อยในทารก และมักจะหายได้เอง หากไม่หายสามารถรักษาด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการสวนท่อน้ำตาหรือใส่ท่อซิลิโคน ซึ่งมักได้ผลดี
